WIL?

ซีรีส์ใหม่ของบล็อก (ต้องเขียนก่อนหายไป อารมณ์และความคิดผมมักจะฟุ้งกระจายอยู่ในหัวชั่วครู่ก่อนหายไป ถ้าไม่เขียนก็ลืม)

เอ้อ สำหรับไดอารี่กำลังพยายามอยู่นะ อย่ากดดัน เดี๋ยวจะเหมือนขี้ ยิ่งเร่งยิ่งไม่ออกนะ ขอโทษก๊าบบบ ผมก็อยากทำให้มันเสร็จๆเหมือนกันอะ รู้สึกเหมือนมีอะไรคาใจไม่เสร็จซะที

ซีรีส์ใหม่บล็อกวันนี้ที่เอามาแทรกไดอารี่(อีกแล้ว) คือ WIL -What I learned?

ปกติชีวิตผมก็นั่งดู Law and Order เป็นอาจิณครับ เพราะว่าที่บ้านผมดูทีวีแค่สองช่อง (แค่นี้ก็ไม่ต้องทำอะไรกินแล้ว) คือ Universal กับ Syfy (ส่วนรายการไหนมีอยู่ช่องไหนดูประจำอะไร ถ้ามี WIL ครั้งหน้าคงได้มาเขียนอีกว่าดูอะไรมา)

วันนี้ดูเรื่อง Law&Order ตอนที่มีหมอคนนึงเปิดโรงคลีนิก (โปรดเข้าใจว่าซีรีส์นี้อยู่ใน Newyork ดังนั้น กฏหมายและวัฒนธรรมจะเป็นฝรั่ง งงตรงไหนก็บอกตัวเองซะว่า ‘มันไม่เหมือนบ้านเรา’ ไปก่อนละกัน) แล้วเป็นหมอที่มีปริญญาและดุษฏีบัณฑิตและเกียรติบัตรเป็นถัง (แปลว่ามีเยอะมวากกก) ในเรื่องของการใช้สิ่งเร้าพฤติกรรม (บลาๆๆๆ ผมจำไม่ได้ แต่มาแนวนี้แหละ)

เรื่องก็คือมีคนตาย (ตรงนี้ผมดูไม่ทัน) แล้วไปสืบ มีคนเคยใช้การรักษาแบบนี้ คือใช้หมวก ชื่อ BuzzBox (อันใหญ่มาก) ใส่แล้วเลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง เลยฟ้องเอาเงิน แล้วก็สั่งห้ามใช้หมวก
เลยสงสัยว่าทางคลีนิกยังใช้หมวกนี้อยู่หรือเปล่า อัยการเลยให้ตำรวจไปตรวจสอบพร้อมหมายศาล

ทีนี้ก็พบคนกำลังเอาไฟช้อตเด็กอยู่ มาทราบทีหลังว่าเป็นแค่เด็กเรียนมหาลัย ไม่ได้เกี่ยวกับการแพทย์เลย มีหน้าที่รับจากหมอคือเอาไฟช็อตเด็กทุกสิบนาที

อย่าเพิ่งคิดว่าเฮ้ย มันฆาตกรรมโรคจิตีรึเปล่าวะ อ่านต่อไปครับ

แล้วเด็กมหาลัยที่ว่าก็ซัดทอดครับ ว่าอีตาเจ้าของคลีนิกนี่แหละ มัดเด็ก สั่งกูเอาไฟช็อต กูไม่รู้เรื่อง กูก็ไม่ได้อยากทำนี่หว่า โหดร้ายทารุณมากๆ รับไม่ได้ แต่เพื่อเงิน ทำตามคำสั่ง
เอาละครับ ไปจิกหัวหมอเจ้าของคลีนิกมาสิครับ

ทีนี้ก็ฟ้องร้องว่า ใช้ไฟแรงเกินกฏหมายอนุญาตเพื่อการกระตุ้น แถมเกินไปเท่าใหร่ ไม่มากหรอก 20 เท่า เอง จะฆ่ากันตายเลยสินะ พ่อแม่ไม่รู้ไม่เห็นแบบนี้เข้าข่ายทำร้ายร่างกายนะเว้ยเฮ้ย
ทนายหมอก็บอกว่า ‘อ้อ หราาาาา ไปเอาพ่อแม่เด็กมาคุยมั้ยล่าาาา’
ซึ่งทางผู้พิพากษาก็บอกเอามาซิ
วันต่อมาพ่อแม่ก็พูดเฮโลไปทางเดียวกันว่า เฮ้ย ก่อนหน้านี้ลูกผมแม่งทำเหี้ยไรไม่ได้เลยนะ ทุกวันนี้เปิดคอมเป็น พิมพ์อะไรง่ายๆได้ เหมือนคนไม่เป็นออทิสติกเลย แค่เหมือนพัฒนาการช้า

เอาล่ะสิ ร่อดดดครัฟ หลุดคดีเลยทีเดียว

แพทย์ที่ปรึกษาประจำของรัฐก็บอกว่า การกระตุ้นใช้ได้แค่ชั่วคราว เหมือนติดยา เอาง่ายๆคือเหมือนกับทุกครั้งที่หลับในห้องเรียน ไฟจะช็อต หายง่วงมั้ยครับ? หายครับ กูเจ็บ แต่พอเริ่มชินกับไฟช็อต มันก็จะไม่ได้ผล กลายเป็นว่าต้องช็อตหนักกว่าเดิมแทน

เอาล่ะสิ แปลว่าต้องใช้ความรุนแรงมากขึ้น เพื่อได้ผลลัพธ์เท่าเดิม

แล้วเรื่องก็ดำเนินไป สืบไปสืบมา ไม่พูดถึงละกัน

ทีนี้ตอนจบ หมอโดนฟ้องเข้าคุกก็ว่ากันไป

เอ้ย ลืมบอกประโยคนี้โดนมากๆ
“คนทั่วไปคาดหวังว่าลูกตัวเองจะแสดงออกถึงความรักต่อครอบครัว แม้ว่าเด็กออทิสติกเหล่านี้จะไม่สามารถพูดได้ว่ารักพ่อรักแม่รักครอบครัว พ่อแม่ก็พยายามทำจนสุดหนทางที่ลูกเหล่านี้จะพูดออกมาจากใจ เค้าไม่สนหรอกว่าลูดจะต้องทำอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้”

ผมว่าก็จริงว่ะ ถ้าพูดออกมาโดยไม่ได้มาจากใจก็ไม่ใช่นะ ถ้ามาจากใจก็ดี แต่ถ้าไฟช็อตจนจิตใจบิดเบี้ยว (จากที่เบี้ยวเพราะไม่สมประกอบอยู่แล้ว) จนกลับมาตรง ผมว่ามันก็ไม่ใช่ว่ะ ผมเรียกพ่อแม่แบบนี้ว่าสนใจแต่ผลลัพธ์ว่ะ

เอาล่ะมาต่อ

ตอนจบหมอเข้าคุกใช่มะ แม่ก็ออกมาบอกว่า “คุณปิดคลีนิก ลูกชั้นไม่มีที่ไป คุณจะเอาลูกชั้นไปดูแลมั้ยล่ะ คลีนิกปิดความหวังชั้นพังทลายใครจะดูแลลูกชั้น ชั้นดูแลลูกคนนี้ไม่ไหว”

WIL ก็คือว่า ถ้าไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกจะปั๊มมาทำไมวะ เออ ผมไม่เคยมีลูกผมไม่เข้าใจหรอกเว่ย แต่ว่าไม่ใช่ว่าปั๊มลูกมา จะเลี้ยงดูไหว ถ้าลูกชั้นเป็นเด็กปกติ ถ้าเป็นเด็กไม่ปกติชั้นดูแลไม่ไหวนี่มันก็ไม่ใช่นะเว้ย แล้วลูกมึงไปอยู่กับคลีนิกนี้ แม่มก็เอาไฟช็อตลูกมึงทุกสิบนาที เพื่อปรับความบิดเบี้ยวลูกของมึงเนี่ย ถ้าเกิดลูกมึงกลายเป็นคนปกติขึ้นมาจริงๆถามหน่อยดิ๊ว่าเด็กมันจะพูดอะไรระหว่าง “แม่ครับ ขอบคุณมากที่ส่งผมไปถูกไฟช็อตทุกสิบนาทีจนกลายเป็นคนปกติ” หรือว่ามันจะพูดว่า “มึงส่งไปกูไปถูกช็อตแทบตาย โชคดีที่กูกลายเป็นคนปกติ เกิดกูไม่หายกูตายมั้ยสาด” วะ? แล้วผมถามหน่อยดิ๊ ดูแลไม่ไหว เลยเอาลูกไปทิ้งไว้ที่คลีนิกเนี่ย มันต่างอะไรกับอยากเลี้ยงหมา แต่เลี้ยงไม่ได้เลยเอาไปฝากคนอื่นเลี้ยงวะ? คือถ้าคนรักหมาก็คงบอกว่าเออ เหี้ยว่ะ เอามาแล้วไม่ดูแล …. นี่คนนะเว้ย คน นะ คน มนุษย์อะ มึงจะปล่อยให้ลูกตัวเองเป็นภาระ (จะพูดหรือไม่ก็แล้วแต่) แต่ไม่ดูแลภาระ แล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าภาระต้องเจอกับอะไรบ้างเหรอ? ผมว่ามันก็ไม่ใช่อะ

ผมดูจบแล้วผมก็ถามตัวเองว่า เฮ้ย ถ้าลูกกูผิดปกติกูจะดูแลหรือโยนทิ้ง… ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่ะ ผมไม่เคยมีลูก ผมไม่เคยมีลูกที่เป็นออทิสติก มันยิ่งตอบยากนะ ผมอาจจะดีอีแม่ในบทละครเสร็จ สิบปีข้างหน้าผมทำเองไม่ต่างกันก็ได้ อันนี้ผมก็ไม่ทราบ ผมไม่ได้ให้อ่าน (ถ้ามีใครอ่านมาถึงตรงนี้) แล้ว Discuss กันว่าแม่งผิดแม่งถูก ผมอยากให้ดูแล้วถามตัวเองว่า “กูจะทำยังไงถ้า….?” มากกว่า

เฮ้ย จะบอกยังไงว่าหมดก๊อกแล้ววะ จะปิดบล็อกนี้แค่นี้แหละ ? หือ? รู้ละเหรอว่าหมดมุก เออ งั้นจบแค่นี้แหละ วันนี้เรียนรู้แค่นี้

Published by bankkung

I'm definitely not the person you're looking for.

ใส่ความเห็น